@ SiamThai_yim @

ChangThai

การไหว้

การไหว้ เป็นมารยาทไทยที่เป็นวัฒนธรรมการทักทาย เวลาพบปะกันหรือลาจากกัน "การไหว้" เป็นการแสดงถึงความมีสัมมาคารวะ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน นอกเหนือจากการกล่าวคำว่า "สวัสดี" แล้วยังแสดงออกถึงความหมาย "การขอบคุณ" และ "การขอโทษ" การไหว้เป็นการแสดงมิตรภาพ มิตรไมตรี ที่เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม โดยยกมือสองข้างประณม นิ้วชิดกัน ปลายนิ้วจรดกัน ไม่แยกปลายนิ้วออกจากกัน ยกมือขึ้นในระดับต่างๆ ตามฐานะของบุคคล เเละเมื่อมีผู้ทำความเคารพด้วยการไหว้ ต้องรับไหว้ทุกครั้ง การรับไหว้ใช้ประณมมือแค่อก แล้วยกขึ้นเล็กน้อย ก้มศีรษ

เครื่องแกงไทย












เครื่องแกงไทย

อาหารไทยส่วนใหญ่มีรสชาติเผ็ดร้อน แต่แท้จริงแล้วต้นกำเนิดของพริกมาจากประเทศอื่น ได้แก่ อินเดีย และแมกซิโก แม้ว่าโดยหลักแกงของไทยจะใช้กะทิ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากแกงของอินเดีย แต่ชาวไทยก็ได้พัฒนาสูตรและรสชาติเป็นของตัวเองจนเป็นที่รู้จักในนามของ เครื่องแกงไทย โดยการลดเครื่องเทศบางชนิด และเพิ่มสมุนไพรบางอย่าง เช่น ตะไคร้, ข่า, มะกรูด และกะปิ สิ่งสำคัญที่ทำให้แกงของไทยได้รับความนิยมทั่วโลก นั่นก็เพราะคนรุ่นก่อนได้คิดค้นสูตรเครื่องแกงที่มีความโดดเด่น และรสชาติอร่อย เค้าได้ใช้สมุนไพรที่เป็นเหมือนยารักษาโรคมาเป็นเครื่องปรุงในอาหาร ตัวอย่างเช่นพริก : ประกอบด้วยวิตามินซี, อี, บี 1, บี 2, บี 3 ช่วยระบบการหายใจ หมุนเวียนโลหิต ใบโหระพา : ช่วยระบบย่อยอาหาร หอมแดง : ช่วยป้องกันหวัด กระเทียม : ช่วยลดคอเลสเตอรอล และช่วยป้องกันโรคหัวใจ กะทิ : ให้พลังงาน (Get Fat) กะปิ : ประกอบด้วยแคลเซียม และวิตามินเอ ทั้งหมดนี้ คือ ส่วนหนึ่งของประโยชน์ที่เราจะได้รับในหนึ่งจาน ซึ่งเป็นความรู้ที่คนไทยได้ค้นพบและสืบต่อรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง การเป็นสากลไม่ได้หมายความว่ารสชาติดั้งเดิม ต้องลดหย่อนลงไป แต่ควรจะภูมิใจและรักษาสืบทอดต่อไป ซึ่งในความเป็นจริง แกงของไทยนั้นปรุงง่ายและรับประทานกับข้าวสวยก็อร่อ

อะเมสซิ่ง ไทยแลนด์
ประเทศไทยแดนมหัศจรรย์
จะไปไหนก็ได้ยินแต่ชื่อ "อะเมสซิ่ง ไทยแลนด์" หรือ "ประเทศไทยแดนมหัศจรรย์" ไปทุกหนทุกแห่ง หลายคนก็จะนึกถึงภาพสัญลักษณ์รูปดวงตาและอีกหลายคนอาจนึกถึงภาพโฆษณารูปฝรั่งสวมชฎา หรือฝรั่งสวมหมวกชาวเขา ก็คงเข้าใจว่าน่าจะเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของไทยนั่นเองวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ของการจัดงาน อะเมสซิ่ง ไทยแลนด์ ๒๕๔๑-๒๕๔๒ ก็คือ เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเวลา๒ ปีนี้ เนื่องจากโอกาสสำคัญของประเทศไทย ๒ วาระคือ การจัดงานเอเชี่ยนเกมส์ในปี ๒๕๔๑ และพระราชพิธี และรัฐพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ในปี ๒๕๔๒ ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงนำเหตุการณ์สำคัญดังกล่าวมาเป็นหลักในการจัดการส่งเสริมให้เป็นปี อะเมสซิ่งไทยแลยด์ และเนื่องจากปัจจุบัน รัฐบาลเล็งเห็นว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในระยะที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นหนทางให้สามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศได้อีกหนทางหนึ่งด้วย นอกเหนือจากการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี ของประเทศไทย อาทิ งานเฉลิมพระชนมพรรษา , งานเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินทางชลมารค, งานประเพณีสงกรานต์ แล้ว ยังจัดให้มีพิธีเปิดงานอะเมสซิ่ง ไทยแลนด์ ที่บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนอะเมสซิ่ง ไทยแลนด์ หรือ ๙ มหัศจรรย์
๑. AMAZING SHOPPING PARADISE สนับสนุนกำลังซื้อจับจ่ายด้านศิลปกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ไทยของแต่ละภูมิภาค๒. AMAZING TASTE OF THAILAND สนับสนุนกิจกรรม ด้านการรับประทานอาหารไทย การปรุงอาหารไทยร้านอาหารไทย คุณค่าของสมุนไพร และผลไม้เมืองร้อนที่มีรสชาติ ๓. AMAZING CULTURAL HERITAGE เน้นโบราณคดี ประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณต่างๆ ของไทย ๔. AMAZING ARTS AND LIFESTYLE คือ ศิลปวัฒนธรรมไทยแขนงต่าง ๆ และวิถีชีวิตของชุมชนชาวบ้าน๕. AMAZING WORLD HERITAGE หมายถึง สถานที่ต่าง ๆ ของไทยที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกเช่น เมืองเก่าสุโขทัย ๖. AMAZING SPORTS AND ENTERTAINMENT สนับสนุนด้ารการกีฬา และการแสดงบันเทิงต่างๆ ๗. AMAZING NATURAL HERITAGE หมายถึง มรดกทางธรรมชาติอันเป็นทรัพยากรตกทอดมาแต่บรรพบุรุษ๘. AMAZING GATEWAYS สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประตูสำคัญที่จะเชื่อมโยงเข้าสู่อนุภาคในลุ่มแม่น้ำโขง,ประเทศเพื่อนบ้านของไทยทางใต้และพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน ๙. AMAZING AGRICULTURAL HERITAGE ส่งเสริมการเกษตรของไทย ซึ่งรวมทั้งสวนผลไม้สมุนไพร สวนเกษตร และโครงการหลวงสวนสมุนไพร เป็นต้น
นอกเหนือจากกิจกรรมและสินค้าต่าง ๆ แล้วนั้น ทางการท่องเที่ยวยังเตรียมการในเรื่องความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและจะมีมาตรการป้องกันการหลอกลวงในการขายสินค้า โดยจะมีการออกใบรับรองมาตรฐานของสินค้าหรือใบรับประกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาซื้อสินค้า ว่าจะได้ของที่ไม่มีคุณภาพกลับไปอาทิเช่น สินค้าประเภทจิวเวลรี่ ซึ่งเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยการเข้าร่วมกิจกรรมอะเมสซิ่ง ไทยแลนด์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เปิดโอกาสให้ หน่วยงานที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอาทิเช่น การช่วยเผยแพร่สัญลักษณ์ Amazing Thailand ในสินค้าต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์ข่าวสารเท่าที่โอกาสจะเอื้ออำนวย หรือเข้าร่วมเป็นสปอนเซอร์ ในรายการต่าง ๆ สำหรับประชาชนทั่วไป การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้คือ ต้องการให้คนไทยเที่ยวในเมืองไทยเพื่อที่รายได้จะได้อยู่ในประเทศไทย และต้องการให้ประชาชนไทยทุกท่าน ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพที่ดีโดยการรักษาความสะอาดของแหล่งท่องเที่ยว ดูแลบ้านเมืองของเราให้สะอาด ดูแลต้นไม้ไม่ทิ้งขยะ รวมทั้งมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในเมืองไทยให้เขาได้รับความประทับใจกลับไปเพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยของงเรา ทั้งนี้หากเราได้ความร่วมมือที่ดีจากประชาชนคนไทยทุกคนแล้วงานอะเมสซิ่ง ไทยแลนด์ ๒๕๔๑-๒๕๔๒ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ คงจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน



ที่มาขององค์ประกอบ
ดวงตา เป็นองค์ประกอบที่สื่อความหมายของความรู้สึกต่าง ๆ ได้ดีที่สุดทั้งความสนุกสนานความมหัศจรรย์ที่ได้พบเห็น และบอกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าดวงตานี้ว่า น่าจะไปสัมผัสด้วยตนเองเพียงไร
ลายเส้น ใช้ความอ่อนช้อยของเส้นโค้งอันเป็นลักษณะลายเส้นของจิตกรรมไทยโดยการนำมาดัดแปลงให้เรียบง่าย และร่วมสมัยมากขึ้น
สีเหลืองทองบนพื้นดำ เป็นสีที่ใช้ในงานจิตกรรมลงรักปิดทองของไทยบนพื้นสีดำสนิทแสดงถึงความละเอียดประณีต การใช้สีทอง มักจะเลือกใช้ในงานที่ต้องการความรู้สึกสง่างามมีคุณค่าถือเป็นแบบอย่างเฉพาะตัวของช่างฝีมือไทย
สีสันตัวอักษร ตัวอักษร AMAZING ออกแบบให้สีแตกต่างกัน เลือกใช้โทนสีสดสีตัดกัน เพื่อสื่อความหลากหลายและสนุกสนาน เช่นเดียวกับนิสัยรักสนุกของคนไทยที่ถ่ายทอดออกมาเป็นสีสดในเครื่องแต่งกายของคนไทย เช่น ผ้านุ่ง ชุดลิเก หรือริ้วธง ที่ประดับประดาในงานรื่นเริงประจำปี
ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการอะเมสซิ่ง ไทยแลนด์
ในอันดับแรกจะเป็นเรื่องของรายได้เข้าประเทศจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก จะมีการจ้างงานมากขึ้นเป็นการกระจายรายได้ให้กับประชาชนนอกจากนี้ยังจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในการที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมีความน่าสนใจและคุ้มค่าต่อการมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มรวมถึงการมาลงทุนในเมืองไทยเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะตามมาภายหลังอีกด้วย ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันอาจจะทำให้ท่านเกิดความเครียดการท่องเที่ยวการพักผ่อนหย่อนใจ การนันทนาการ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยผ่อนคลายความตรึงเครียดบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าเมืองไทยของเรามีสิ่งที่สวยงามน่าสนใจรอให้ท่านค้นพบท่องเที่ยว เยี่ยมชม หรืออาจแสวงหาความรู้จากการเดินทางให้ลูกหลานของเราได้ทราบถึงคุณค่าของประเทศไทยของเราอีกหลายแห่งไม่แพ้ต่างประเทศเลยทีเดียว.
" ว.แหวน " เรียบเรียงจาก ข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ช้างไทย






เมื่อกล่าวถึงสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่มีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้แล้วทุกคนย่อมจะต้องคำนึงถึงช้างเป็นอันดับแรก ช้างเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณจนปรากฏอย่างเด่นชัดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ อย่างมากมาย แต่ข่าวช้างป่าของไทยกำลังถูกทำลายจนลดจำนวนใกล้จะหมดไปจากประเทศ และข่าวช้างป่าถูกพรานป่ายิงบาดเจ็บสาหัสจนสิ้นชีวิตไปแล้วที่จังหวัดบุรีรัมย์ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าเพื่อนที่เคยมีบทบาทอย่างสำคัญต่อชีวิตคนไทย มีส่วนร่วมในการทำศึกสงครามกู้ชาติมาแต่ครั้งอดีตกำลังจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ





ช้างไทย (Elephas maximus) เป็นช้างชนิดหนึ่งในสองชนิดที่ยังเหลืออยู่ในโลก พบทั่วไปในบริเวณเอเชียตอนใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกชนิดหนึ่งคือช้างแอฟริกา (Loxodonta africana) ซึ่งแตกต่างจากช้างไทยตรงที่มีใบหูใหญ่ หัวหลิม หลังแอ่น ปลายงวงมีอวัยวะคล้ายนิ้วมือเพียงอันเดียว มีงาทั้งตัวผู้และตัวเมีย ส่วนช้างไทยมีใบหูเล็ก หัวโหนกออกเป็นสองพู พลังโค้งปลายงวงมีอวัยวะคล้ายนิ้วสองอัน และมีงาเฉพาะในตัวผู้
ปริมาณประชากรของช้างในธรรมชาติในประเทศไทย ประมาณกันว่าอยู่ในราว 1,000-1,500 ตัวเท่านั้น โดยกระจายกันอาศัยอยู่ในป่าที่มีพื้นที่กว้างและมีแหล่งอาหารและน้ำอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติ เช่น เขาใหญ่ ทุ่งแสลงหลวง และแก่งกระจาน เป็นต้น และในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง เขาสอยดาว และคลองนาคา เป็นต้น
ช้างป่าจะอยู่รวมกันเป็นโขลง มีจำนวนสมาชิกตั้งแต่ 3 ตัวขึ้นไป โดยมีตัวเมียที่มีอายุมากที่สุดเป็นผู้นำฝูง ทำหน้าที่พาโขลงไปหากินตามแหล่งอาหารต่าง ๆ และคอยพาโขลงหนีภัย สำหรับช้างตัวผู้ที่มีอายุ 16-19 ปี จะมีลำตัวขนาดใหญ่และงายาว มักชอบแยกตัวออกมาอยู่ตามลำพังและจะเข้าฝูงเพียงเพื่อการผสมพันธุ์เท่านั้น ช้างตั้งท้องนาน 22 เดือน หลังจากคลอดลูกแล้วช้างจะไม่ตั้งท้องอีกนานประมาณ 2 ปี เพราะฉะนั้นใน 4 ปี จะมีลูกช้างเกิดใหม่เพียง 1 ตัวต่อ 1 แม่เท่านั้น
ช้างจะใช้เวลาส่วนใหญ่ประมาณ 17-19 ชั่วโมงในการกินอาหาร ช้างเป็นสัตว์ที่กินจุมาก แต่ละตัวจะกินอาหารหนัก 150 กิโลกรัมต่อวัน และดื่มน้ำประมาณ 200 ลิตรต่อวัน อาหารของช้างได้แก่ หญ้า ไผ่ หวาย ปาล์ม กล้วยป่าและพืชล้มลุกหลายชนิด รวมทั้งเปลือกไม้ยืนต้นอีกหลายชนิด เนื่องจากเป็นสัตว์ที่กินจุนี้เอง ช้างโขลงหนึ่ง ๆ จะไม่อยู่ในป่าแห่งหนึ่งนานหลายวัน เส้นทางหากินของช้างมักจะมีลักษณะเป็นวงกลมย้อนกลับมาที่เดิมเสมอ ปัจจุบันโขลงช้างส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่จำกัดจึงขาดความเหมาะสมในการดำรงชีวิตและมีปริมาณอาหารไม่เพียงพอต่อการบริโภค ช้างป่าเริ่มลงมาหาข้าวและพืชไร่กินตามแนวเขตโดยรอบแหล่งอาศัย ทำให้ถูกยิงตายและบาดเจ็บอยู่เนือง ๆ นอกจากนี้ช้างยังถูกล่าเพื่อเอางาและอวัยวะเพศผู้ซึ่งมีราคาสูงมาก อีกทั้งช้างที่ถูกแยกให้อยู่เป็นกลุ่มเดียวจะมีการผสมพันธุ์กันเองภายในโขลง ทำให้ลักษณะทางพันธุกรรมด้อยลงเรื่อย ๆ อาจได้พันธุ์ที่อ่อนแอ ซึ่งจะนำ ไปสู่การสูญพันธุ์ของโขลงช้างไปในอนาคต
ภาพจาก www.panda.org/.../radio_video_nepal/index.cfmwww.digimorph.org/.../elephas.phtml

รำไทย





นายขนมต้ม


ในปี 1774 นายขนมต้มเป็นเชลยศึกของสงครามกับพม่า พม่าเคยจับเขา เมื่อเขาทำลายอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ ของประเทศไทย นายขนมต้ม เป็นนักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ เขาต่อสู้ แบบหนึ่งต่อหนึ่ง กับนักมวย ที่ดีที่สุดของพม่าโดยปราศจากพัก เขาแพ้คนที่สิบของพม่า กษัตริย์มังระทรง ตรัสสรรเสริญ ในความสามารถและเห็นว่า
"คนไทยตัวเล็กก็จริง แต่มีพิษร้ายรอบตัว แม้ว่าเพียงมือเปล่าของเขา ก็สามารถเอาชนะ เก้าหรือสิบฝ่ายตรงกันข้ามได้".
กษัตริย์มังระ ทรงให้อิสรภาพ แก่นายขนมต้ม เขาเดินทาง กลับกรุงศรีอยุธยา และได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ กองทัพให้ การสนับสนุนมวยไทย โดยให้ทหารฝึกฝนและ การใช้เทคนิค นานเท่าที่มี กองทัพในประเทศไทย. กองทัพจำเป็น ต้องฝึก ทักษะการต่อสู้ ในระยะประชิดอยู่เสมอ เป็นรูปแบบ การต่อสู้ ในพื้นที่สู้รบ ไม่เพียงแต่ทหารไทย ที่ต่อสู้โดยใช้มือเปล่า คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ที่เฝ้าดู และเรียนรู้ มันคือการคัดลอกส่วนหนึ่ง ของความเป็นเด็กไทยเสมอ มวยไทย กลายเป็นกีฬาชื่นชอบและผ่านหลายช่วง หลายสมัย ทั้งผู้คน กองทัพ และกษัตริย์ ตามธรรมเนียมปฏิบัต ิผู้ที่สนใจ ฝึกฝน มวยไทย ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน หนุ่มหรือแก่ จะเข้าฝึกในค่ายมวย ในทุกการสู้บนเวทีชนบท จะมีรางวัลการต่อสู้ และแชมป์เปี้ยนของเวที สิ่งที่ปรากฎต่อมา ทำให้เกิดธรรรมเนียมการท้าเดิมพันขันต่อ คือ สิ่งที่เหลืออยู่ในกีฬาหลายอย่างในวันนี้ การแข่งขันชกมวย คือ กิจกรรม ที่มีรายได้สำหรับนักมวย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์

มวยไทย






ประวัติมวยไทย
มวยไทยศิลปประจำชาติอันอาจเกิดมาพร้อม ๆ กับชาติไทย แต่เดิมฝึกฝนอยู่แต่ในหมู่ทหารเพื่อใช้ในการรบประชิดตัวประกอบกับการใช้ดาบสองมือ และมือเดียว เมื่อว่างจากการสงครามก็จะมีการชกมวยกันเพื่อความสนุกสนาน ในสมัยอยุธยาตอนต้น นักมวยไทยที่มีชื่อเสียงมาก คือ นายขนมต้ม ในสมัยอยุธยาตอนปลาย เช่น พระเจ้าเสือ หรือขุนหลวงสรศักดิ์ พระเจ้าตากสิน และพระยาพิชัยดาบหัก ชกกันด้วยการคาดเชือก คือใช้เชือกเป็นผ้าพันมือ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีเวทีมวยที่จัดให้มีการแข่งขัน เช่น เวทีสวนเจ้าเชษฐ และเวทีสวนกุหลาบ สมัยแรก ๆ ก็ยังชกกันด้วยการคาดเชือก และเปลี่ยนเป็นสวมนวมชก จนถึงปัจจุบัน

พันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณของไทย



ดอกไม้ที่ในโลกนี้
เรารู้ได้อย่างดี
ว่างามสดสีทั้งนั้น
ปวงมาลีมากมีต่างพรรณ
สวยงามทั่วกัน
เพื่อความสัมพันธ์ชื่นชม
บุปผามาลีประดับความงาม
หาใช่เพื่อเลวทราม
แต่มีเพื่อความนิยม
บุปผามาลีมีไว้เพื่อดูและดม
ไว้ชะโลมอารมณ์
ไว้เพียงเพื่อชมนาน ๆ
ดอกไม้ที่ในโลกนี้
แจ่มใสอยู่ด้วยดี
สอางค์สดสีสะอ้าน
ปวงมาลีเกิดมาเพื่อความเบิกบาน
เล้าโลมวิญญาณ
เพื่อความสำราญทุกโมงยาม
ดอกไม้สอางค์ต่าง ๆ นานา
ล้วนแต่เกิดมา
เพื่อความสดชื่นสวยงาม
โลกหมุนเวียนวนไปสักกี่หนก็ตาม
ทุกนาทีโมงยาม
ทวีแต่ความงามครัน

บุปผามาลีนานาพรรณของไทยนับวันจะหายากและไม่ไคร่เป็นที่รู้จักของอนุชนรุ่นหลัง เนื่องจากสาเหตุหลายประการด้วยกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งสวนและป่าตามธรรมชาติของไทยค่อยๆ หมดสภาพไปตามความเป็นไปของบ้านเมืองในปัจจุบัน ซึ่งเจริญขึ้นในด้านหนึ่งและเสื่อมไปในอีกด้านหนึ่ง ความนิยมพันธุ์ไม้ต่างชาติซึ่งก็สวยงามน่าชมทั้งสิ้น ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรณไม้ของไทยหายไปจากชีวิตประจำวัน พรรณไม้บางอย่างคงรู้จักแต่ชื่อ แต่ตัวจริงหาดูได้ยาก ปัจจุบันหลายหน่วยงานได้มีการรวบรวมพรรณไม้ไทยมาปลูกไว้ในสวนขนาดต่างๆ ตามกำลังของตนซึ่งนับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ควรได้ส่งเสริมให้เป็นไปอย่างกว้างขวางทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งกลุ่มคนและปัจเจกบุคคล เพื่อให้พรรณไม้ไทยได้ยืนยงคงอยู่ได้ชมความงามตามธรรมชาติ ซึ่งบรรพบุรุษของไทยเราได้สร้างสมมาเป็นเวลายาวนาน บรรดาวรรณคดีไทยและวรรณกรรมไทย จะมีตอนชมนกชมไม้แทรกอยู่โดยตลอด ทำให้เห็นว่าวิถีชีวิตไทยที่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสงบมาเป็นเวลาช้านานนั้น การอิงธรรมชาติเป็นสิ่งที่สำคัญประการหนึ่งและพรรณไม้ดอกของไทยก็มีส่วนอย่างสำคัญในวิถีชีวิตดังกล่าว
ไม้งามปกคลุมชะอุ่มดูเขียว ได้แต่แลเหลียวตะลึงลานใจ
พันธุ์บุปผาชาติดาษดา ผกาวิไล ส่งกลิ่นชื่นใจเมื่อได้ลมพา
ไม้ดอกต่าง ๆ ของไทย มีตั้งแแต่ขนาดเล็กเป็นไม้ล้มลุก ไม้เถา ไม้เลื้อย ไม้พุ่ม ตลอดจนไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังมีไม้น้ำหลายประเภทที่ให้ดอกสวยงาม นับว่ามีความหลากหลายเหมาะสมแก่สภาพความเป็นอยู่ และความต้องการที่จะมีไว้ชื่นชม